บริการจดเลิกกิจการ

1.จดทะเบียนเลิก

(และจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

2.แจ้งกรมสรรพากร

ให้ผู้ชำระบัญชีและผู้จัดการร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานประเมินทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เจ้าพนักงาน(กระทรวงพาณิชย์) รับจดทะเบียนเลิก

3.ยื่นรายการเสียภาษีในปีที่เลิกกัน

ให้ผู้ชำระบัญชีและความรับผิดชอบร่วมกันในการยื่นรายการเสียภาษีตามแบบ ภ.ง.ด.50

ช่วงเวลายื่น !  ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี โดยถือวันที่เจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเลิกเป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี

สถานที่ยื่น ! สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่สถานประกอบการอันเป็นสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่

ขั้นตอนการเลิกกิจการ เลิกบริษัท เลิกหจก ต้องทำอย่างไร?

การเลิกกิจการนั้นไม่ง่ายเหมือนตอนเปิด มีขั้นตอนการจดทะเบียนเลิก-การชำระบัญชีหลายขั้นตอน สำหรับ นิติบุคคลจะต้องกำเนินการเลิกกิจการให้ถูกต้อง จะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในอานคต

การเลิกกิจการจะต้องไปดำเนินการทั้งที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร และสำนักงานประกันสังคม ซึ่งก่อนจะไปแจ้งเลิกกับหน่วยงานต่างๆดังกล่าว ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการดังนี้

1.การเลิก และขอจดทะเบียนเลิกบริษัท

ผู้ประกอบการนิติบุคคลที่จะเลิกกิจการ กรณีที่เกิดจากความประสงค์ของผู้ถือหุ้นเอง จะต้องดำเนินการตามกฎหมายกำหนด โดยจัดให้มีประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อลงมติเลิกกิจการ จึงจะสามารถไปยื่นจดทะเบียนเลิกกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ขั้นตอนที่จะเลิกและการจดทะเบียนเลิกมีดังนี้
– เมื่อผู้ถือหุ้นและกรรมการตกลงกันเลิกบริษัทต้องออกหนังสือนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อให้มีมติพิเศษในการเลิกบริษัท ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวจะต้องทำก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 14 วัน เพื่อนัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยจะต้องพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องที่อย่างน้อย 1 คราว และส่งไปรษณีย์ตอบรับหรือส่งมอบถึงตัวผู้ถือหุ้น
-จัดประจำผู้ถือหุ้น โดยผู้ถือหุ้นจะต้องมีมติพิเศษให้เลิกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า3ใน4 ของจำนวนที่เข้าร่วมประชุมและต้องมีการพิจารณาแต่งตั้งผู้สอบด้วย
-หลังจากจัดประชุมเสร็จแล้วจะต้องประกาศหนังสือพิมพ์อย่างน้อย 1 ครั้ง และส้งมอบหนังสือบอกกล่าวเจ้าหนี้ (ถ้ามี) ภายใน 14 วันนับจากวันที่มีมติเลิกบริษัท
– แต่งตั้งผู้ชำระเงินบัญชี
– ผู่ชำระบัญชียื่นคำขอจดทะเบียน เลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน14 วันนับจากวันที่มีมติเลิกบริษัท

2. การชำระบัญชี และขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี

เมื่อเลิกกิจการ อยู่ระหว่างชำระบัญชี บริษัทยังมีหน้าดังนี้
จำทำงบการเงิน ณ วันเลิกบริษัท หรือวันที่นายทะเบียนเลิก โดยให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและแสดงความเห็นว่าถูกต้อง

  • นัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อยืนยันตัวตนผู้ชำระบัญชีและอนุมัติงบการเงิน ณ วันเลิก โดยต้องลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องที่อย่างน้อย 7 วันก่อน ประชุมและส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ หรือส่งมอบถึงตัวผู้ถือหุ้น
  • จัดประชุมผู้ถือหุ้น โดยในวันประชุมต้องมีมติในการอนุมัติงบการเงิน ณ วันเลิกกิจการและอนุมัติการชำระบัญชี
  • ผู้ชำระบัญชีชำระสะสางทรัพย์สินและเป็นหนี้สินของบริษัทถ้ามีทรัพย์สินให้จำหน่าย มีลูกหนี้ให้เรียกเกือบเงินลูกหนี้ ชำระหนี้สิน และจ่ายค่าใช้จ่ายในการชำระบัญชีของบริษัท หากมีเงินคงเหลือให้คืนทุน แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนที่ถือหุ้นหรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
  • ออกหนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติรายงานการชำระบัญชี
  • ประชุมผู้ถือปุ้นเพื่อมีมัติอนุมัติรายงานการชำระบัญชี
  • ผู้ชำระบบบัญชีจากการทำคำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี และยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายใน 14 วันนับจากมีมติเสร็จการชำระบัญชี

หน่วยงานที่ต้องไปติดต่อ มีดังนี้

1.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
มี2 ขั้นตอน
จดทะเบียนเลิก ซึ่งจะได้รับหนังสือรับรองจดทะเบียนเลิกกิจการ เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการดำเนินการแจ้งเลิกอีก 2 หน่วยงานคือ กรมสรรพากร และ สำนนักงานประกันสังคม

จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี หากไม่สามารถชำระบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน นับแต่วันเลิกให้ผู้ชำระบัญชียื่นรายงานการชำระบัญี (แบบ ลช.3) ทุกๆ3เดือน

2.กรมสรรพากร
หลังจดทะเบียนเลิกที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากบริษัทเป็นผู็ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องไปดำเนินการแจ้งเลิกกิจการที่กรมสรรพากร ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้จดทะเบียนเลิกต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อคืนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและหลักฐานอื่น และยื่นแบบภาษีต่างๆ ตลอดจนนำส่งงบการเงิน ณ วันจดทะเบียนเลิกกิจการ
ดังนี้

  • นำส่งแบบภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 พร้อมงบการเงิน ณ วันจดทะเบียนเลิกกิจการภายใน 150 วัน นับจากวันที่จดทะเบียนเลิก
  • นำส่งแบบภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยการยื่นแบบ ภ.ง.ด.3ม53 ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดจากวันที่จดทะเบียนเลิกให้ครบถ้วน เช่น การหัก ณ ที่จ่าย ค่าทำบัญชี ค่าสอบบัญชี เป็นต้น
  • นำส่งแบบภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) ภายในวันที่15 ของเดือนถัดจากวันที่เลิกในกรณีที่มีบัญชีดอกเบี้ยค้างรับ หรือดอกเบี้ยในงบการเงิน
  • ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับ “หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี”จากกรมสรรพากร

3.สำนักงานประกันสังคม
กรณีที่นายจ้างเลิกกิจการ นายจ้างต้องทำหนังสือแจ้งพนักงานที่จะเลิกจ้างล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง และจ่ายค่าชดเชยตามอายุการทำงานในอัตราที่กฏหมายกำหนด และให้แจ้งเลิกกิจการโดยยื่นแบบการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนายจ้าง (สปส.6-15) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลง ณ สำนักงานประกันสังคมที่สถานประกอบตั้งอยู่